เลขาฯยูเอ็นเรียกร้องเพิ่มการผลิตและจัดสรรวัคซีนโควิด

นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เรียกร้องผู้ที่มีศักยภาพ ร่วมกันผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 เพิ่มอีกสองเท่า และการจัดสรรวัคซีนให้ “เป็นธรรมกว่านี้” เพื่อให้ประเทศยากจนมีโอกาสได้รับความคุ้มครองด้านสาธารณสุขด้วย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ว่า นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เกี่ยวกับการกระจายวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 บนโลก ว่าทุกภาคส่วนที่มีศักยภาพผลิตวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ต้องเพิ่มการผลิตอีกสองเท่า เพื่อเพิ่มความเท่าเทียมให้กับกระบวนการจัดสรร
 
ทั้งนี้ กูเตร์เรส กล่าวว่า เป็นเรื่องเลวร้ายอย่างยิ่งและยากเกินรับได้ เมื่อกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและมีฐานะร่ำรวยสามารถฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้เกือบทั้งหมด ในขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาไปจนถึงกลุ่มชาติฐานะยากจนกลับไม่มีวัคซีนฉีดให้แก่ประชาชน “แม้แต่โด๊สเดียว”
 
ขณะเดียวกัน เลขาธิการยูเอ็นกล่าวถึงการกลายพันธุ์ซ้ำซ้อนของเชื้อไวรัสโคโรนา จนเกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่อีก ดังที่เรียกกันตามชื่อประเทศซึ่งพบครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์สหราชอาณาจักร อินเดีย บราซิล และแอฟริกาใต้ ว่ากำลังทำให้วิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 “ลุกลามขยายวงกว้างราวกับไฟป่า” โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและมีฐานะยากจน ด้วยเหตุนี้ การแบ่งปันวัคซีนให้มีความทั่วถึง และการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในประเทศให้ได้มากที่สุด จึงเป็นวาระสำคัญที่สุดซึ่งต้องเร่งดำเนินการ
 
ทรรศนะของกูเตร์เรสเกิดขึ้นในขณะที่อินเดียซึ่งได้ชื่อว่า “โรงงานวัคซีนโลก” กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดครั้งที่สองของโรคโควิด-19 ซึ่งนับเป็นระลอกที่สอง แต่รุนแรงกว่าระลอกแรกมาก เนื่องจากมีการกลายพันธุ์ของเชื้อโรค ส่งผลให้ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจำนวนมากภายในเวลาอันรวดเร็ว การผลิตวัคซีนจึงไม่เพียงพอ ส่งผลกระทบสืบเนื่องถึงโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ในการจัดสรรวัคซีนแก่ประเทศยากจน