เรือติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ “เอจิส” ลำใหม่ของญี่ปุ่น ที่อยู่ในแผนก่อสร้าง คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 900,000 ล้านเยน (8,270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 259,210 ล้านบาท) มากกว่า 2 เท่าของค่าใช้จ่าย ในการก่อสร้างฐานเอจิสบนบก 2 แห่ง ที่ถูกยกเลิกไปเมื่อปีที่แล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ว่า คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ร่วมกันรับผิดชอบ โครงการก่อสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธโจมตีประเทศ อาจจะเผชิญกับคำถามมากมายในรัฐสภา เกี่ยวกับจำนวนเงินค่าใช้จ่าย ในการสร้างเรือติดตั้งระบบเอจิสลำใหม่
แหล่งข่าววงในที่ทราบข้อมูล แบบเรือเอจิสลำใหม่ที่จะสร้าง เผยต่อสำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นอาจต้องใช้จ่ายเงินมากกว่า 2 เท่า และรอนานกว่าแผนเดิม 3 ปี สำหรับการเริ่มใช้งาน เรือติดตั้งระบบเอจิสใหม่ ที่สร้างโดยทีมงานวิศวกรบริษัทล็อคฮีด มาร์ติน แห่งสหรัฐอเมริกา
เดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว นายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นในขณะนั้น ตัดสินใจยกเลิกแผนก่อสร้าง สถานีเอจิสบนบก 2 แห่ง รวมมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยเหตุผลจรวดที่ยิงขึ้นสกัดกั้น และทำลายขีปนาวุธศัตรูกลางอากาศ จะทำให้เศษชิ้นส่วนที่แตกกระจายกลางอากาศ หล่นลงเป็นอันตราย และสร้างความเสียหายแก่ชุมชนท้องถิ่น และเปลี่ยนเป็นการสร้างเรือติดตั้งระบบ ยิงสกัดกั้นขีปนาวุธจากกลางทะเลแทน
รายงานของหนังสือพิมพ์อาซาฮี ระบุว่า ค่าใช้จ่ายสำหรับการติดตั้งระบบเรดาร์ในเรือ อาจสูงขึ้นอีก เนื่องจากค่าก่อสร้าง บุคลากร และค่าบำรุงรักษาแพงขึ้น นอกจากนั้น ญี่ปุ่นอาจจำเป็นต้องมีเรือติดตั้งระบบจรวดยิงสกัดและทำลายขีปนาวุธ ประมาณ 6 ลำ เพื่อรับประกันว่าจะมีเรือนปฏิบัติการยามฉุกเฉิน อย่างน้อย 2 ลำในเวลาเดียวกัน